ฟังเพลงตามเทศกาล กิ๊ฟชอป, ตุ๊กตา

อย่าชะล่าใจ... "นอนไม่หลับ" ร้ายกว่าที่คิด

Posted by All วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น

อย่าชะล่าใจ... "นอนไม่หลับ" ร้ายกว่าที่คิด


"การนอนหลับสนิท เป็นลาภอันประเสริฐ" ผู้ที่เคยเผชิญปัญหาการนอนไม่ได้ คงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการนอนอย่างเพียงพอมีผลดีต่อชีวิตมากแค่ไหน นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ยังส่งผลให้การทำงานและการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

แต่มารร้ายจากความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับมีหลายอย่าง ตั้งแต่การนอนกรนเสียงดังมาก ไปจนถึงการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ซึ่งหากเกิดขึ้นเป็นช่วงยาวจะทำให้เกิดการขาดออกซิเจน มีผลกระทบต่อสุขภาพและโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต อัมพฤกษ์ และอื่น ๆ




"การนอนหลับสนิท เป็นลาภอันประเสริฐ" ผู้ที่เคยเผชิญปัญหาการนอนไม่ได้ คงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการนอนอย่างเพียงพอมีผลดีต่อชีวิตมากแค่ไหน นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ยังส่งผลให้การทำงานและการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

แต่มารร้ายจากความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับมีหลายอย่าง ตั้งแต่การนอนกรนเสียงดังมาก ไปจนถึงการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ซึ่งหากเกิดขึ้นเป็นช่วงยาวจะทำให้เกิดการขาดออกซิเจน มีผลกระทบต่อสุขภาพและโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต อัมพฤกษ์ และอื่น ๆ 

หากใครเคยมีอาการดังต่อไปนี้ 

1.กรนเสียงดังและมีลักษณะอาการหอบ หรือสำลักระหว่างนอน

2.ง่วงนอนมากในช่วงกลางวัน
3.ปวดหัวในตอนเช้า มีปัญหาด้านความจำ
4.อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย และไม่มีสมาธิในการทำงาน
5.อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ และ
6.คอแห้งหลังจากตื่นนอน และถ่ายปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน 

นั่นคือ สัญญาณร้ายเข้าข่ายเสี่ยงเป็น "โรคนอนหยุดหายใจอุดกั้น" 

เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีปัญหาด้านการหายใจระหว่างนอนหลับ ผู้ที่มีอาการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ในระหว่างนอนหลับมีสาเหตุเกิดจากการปิดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ระยะเวลาการหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 10 วินาทีขึ้นไป มีผลทำให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนในแต่ละช่วงที่ร่างกายหยุดหายใจ 

ผู้ที่มีอาการโรคนอนหยุดหายใจแบบอุดกั้น จะมีการหยุดหายใจขณะนอนมากกว่า 5 ครั้งในหนึ่งชั่วโมง หรือในบางรายอาจมีมากกว่า 100 ครั้งในหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

สถิติทั่วโลกมีผู้ป่วยเป็นโรคนี้ประมาณ 2-4 เปอร์เซ็นต์ ผลร้ายจากโรคนี้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอีกหลายโรคตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตัน และเบาหวาน 

วิธีรักษาอาการโรคหยุดหายใจแบบอุดกั้นที่ใช้กันมากที่สุด คือ การใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องช่วยหายใจชนิดแรงดันบวก (Continuous Positive Airway Pressure หรือ CPAP) โดยการรักษาด้วยเครื่อง CPAP เป็นการรักษาที่ไม่ต้องใส่อวัยวะเทียมเข้าไปในร่างกาย และสามารถช่วยบรรเทาอาการโรคนอนหยุดหายใจแบบอุดกั้นได้

อีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ รักษาโรคนอนไม่หลับได้ด้วยตัวเอง คือ การเข้านอนตื่นนอนให้ตรงเวลา ปิดสวิตช์การคิดทุกอย่างให้หมดโดยพร้อมที่จะนอนหลับเพียงอย่างเดียว ยิ่งโดยเฉพาะการใช้คอมพิวเตอร์จะทำให้แสงจากหน้าจอมอนิเตอร์ทำร้ายสายตาได้ หากใช้เป็นระยะเวลามาก ๆ จะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น

เนื่องจากความเข้าใจในโรคนอนหยุดหายใจแบบอุดกั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย จึงทำให้มีผู้ป่วยหลายรายยังไม่ได้รับการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธี

ด้วยเหตุนี้ "รอยัลฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์" จัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญนี้ โดยเปิดโครงการเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนอนหยุดหายใจแบบอุดกั้นให้คนทั่วโลกกว่า 1 ล้านคน พร้อมคาดว่าจะมีประชาชนกว่า 150,000 คนจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะเข้าร่วมการตรวจครั้งนี้ 

โครงการเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ถึงปี พ.ศ. 2561 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันนอนหลับโลก ปี 2556 โดยปีนี้จัดงานภายใต้หัวข้อ "นอนหลับดี มีอายุยืน" (Good Sleep Healthy Aging) 

ฉะนั้น "ปัญหานอนไม่หลับ" เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสิ่งที่ตามมามีผลร้ายกว่าที่คุณคิด

ลองเข้าไปทำแบบทดสอบออนไลน์ เพื่อประเมินว่าตนเองเป็นผู้มีความเสี่ยงต่อโรคนอนหยุดหายใจแบบอุดกั้นหรือไม่ที่ http://www.areyousnoring.com/Sleep_Test โดยผู้ทำแบบทดสอบจะได้ทราบผลว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหรือไม่ และจะได้รับคำแนะนำเพื่อให้สามารถนำไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป



(ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์)


เรื่องน่าสนใจจากบล็อกเพื่อนบ้าน